ประมวลข่าว
สัตว์และสิ่งแวดล้อม วัฎจักรแห่งชีวิตรอบตัวเรา จากภาคสนาม ชั้น 1
“จากต้นไม้ที่เคยเจริญเติบโตเขียวขจี มีผลสุกเต็มต้นเมื่อเวลาผ่านไป ใบไม้และผลสุกย่อมร่วงหล่นลงสู่พื้นดินสิ่งมีชีวิตเล็กใหญ่ช่วยกันย่อยสลายสิ่งเหล่านั้นให้กลับกลายเป็นธาตุอาหารในดินเพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้ให้เติบโตต่อไป เกิดเป็นวงจรชีวิตที่หมุนเวียนไม่รู้จบ” หนึ่งในบทเรียนสำคัญของการเป็นมนุษย์ คือ การตระหนักว่า เราคือ ส่วนหนึ่งของธรรมชาติและโลกใบนี้ และ ทุกสิ่งนั้นเป็นวัฎจักร หมุนเวียน ต่อกันไป ไม่ว่าจะเป็น คน พืช สัตว์ และในโรงเรียนเพลินพัฒนา บทเรียนนี้ถูกนำมาขยายผลต่อยอดในภาคสนามของเด็ก ๆ ชั้น 1 สู่ประสบการณ์จริง จากพื้นที่การเรียนรู้สายธรรมชาติ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ของสิ่งมีชีวิต และเข้าใจว่าทุกชีวิตมีบทบาทและคุณค่าในระบบนิเวศของโลกใบนี้ 🌳 วันที่ 1 : เรียนรู้ระบบนิเวศใกล้ตัว ณ บ้านสวนอาจารย์พีท เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ก่อนออกเดินทาง เด็ก ๆ เต็มไปด้วยคำถามและความสงสัยว่า พื้นที่เล็ก ๆ ท่ามกลางตึกสูง จะมีธรรมชาติจริงได้จริงหรือ ❓ จนกระทั่งมาถึงบ้านสวนอาจารย์พีท ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรในเมือง อาจารย์พีทได้เล่าที่มาของสวนจากการฟื้นฟูพื้นที่รกร้างที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมี ให้กลับมาเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ โดยยึดหลักทฤษฎีบันได 9 ขั้นสู่ความพอเพียง ตามศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 เด็ก ๆ ได้เดินสำรวจสวน เรียนรู้ความหลากหลายของพืช และสังเกตใบไม้ที่ทับถมจนกลายเป็นปุ๋ย ทำให้เข้าใจว่าทรัพยากรธรรมชาติ ทุกอย่างล้วนมีคุณค่า อาจารย์พีทพาเด็ก ๆ ทดลองนำใบไม้ที่ร่วงหล่นมาขึ้นรูปด้วยความร้อนจนกลายเป็นจานใบไม้ ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า เด็ก ๆ สะท้อนการเรียนรู้ครั้งนี้ว่า… “จานนี้สามารถย่อยสลายในธรรมชาติได้ ดีกว่าจานพลาสติกอีก” และยังมีเสียงยืนยันจากคุณแม่พร้อมภาพประกอบเรื่องเล่าน่ารักขำขันว่า หลังจากจบภาคสนาม ลูกของตนนำจานทำจากใบไม้นี้กลับมาใช้ที่บ้านจริง และยังใช้มือในการรับประทานกับจานนี้เพื่อเข้าถึงธรรมชาติและความเรียบง่ายอย่างแท้จริงด้วย 🫧 จัดการพื้นที่สีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการเรียนรู้เรื่องการหมุนเวียนทรัพยากรแล้ว เด็ก ๆ ยังได้เรียนรู้การจัดการพื้นที่ สีเขียวอย่างสร้างสรรค์ ฉบับนักรีไซเคิล อาจารย์พีทได้นำจักรยานที่ไม่ใช้แล้ว มาดัดแปลงเป็นเครื่องปั่นน้ำเพื่อสูบน้ำจากคลองมารดน้ำผัก รวมถึงขวดพลาสติกที่แขวนตามต้นไม้ อาจารย์พีทอธิบายว่านี่คือระบบน้ำหยดจากขวดพลาสติกใช้แล้วมาเจาะรูที่ฝาขวดเพื่อรดน้ำต้นไม้ เป็นตัวอย่างการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่าแบบ Circular Economy และเด็ก ๆ ยังได้มีโอกาสลองประดิษฐ์ขวดพลาสติกนี้เองด้วย ท้ายที่สุด เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเอกของธรรมชาติ คือ “จุลินทรีย์” ผู้ช่วยสลายและทำให้วงจรของธรรมชาติหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่การเข้าใจวงจรชีวิตของจุลิทรีย์ รวมถึงการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ ประสบการณ์ภาคสนามวันที่ 1 ณ บ้านสวนอาจารย์พีทเหล่านี้ช่วยให้เด็กเพลินเห็นคุณค่าของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ แม้แต่สิ่งที่เล็กที่สุด ก็อาจสำคัญมากที่สุด และได้เห็นว่าเด็ก ๆ ของเราเริ่มมองเห็นคุณค่าของสิ่งของรอบตัวด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป 🪱 วันที่ 2 : ไส้เดือน สัตว์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ณ ฟาร์มลุงเครา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หากพระเอกของวันแรกคือ จุลินทรีย์ พระเอกของภาคสนามวันที่ 2 ก็คือ “ไส้เดือน” ในฐานะผู้ช่วยสำคัญในการฟื้นฟูดิน ที่ฟาร์มลุงเครา เด็ก ๆ ได้เห็นต้นฝรั่งที่ออกผลเต็มต้น ซึ่งเป็นหลักฐานชั้นดีของความอุดมสมบูรณ์ เป็นผลลัพธ์ที่มาจากปุ๋ยมูลไส้เดือน นอกจากความรู้ที่ได้รับแล้ว เด็ก ๆ ยังได้เก็บผลฝรั่งกลับไปฝากคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านอีกด้วย เด็ก ๆ เรียนรู้ว่าน้ำหมักมูลไส้เดือนอุดมด้วยธาตุอาหารและจุลินทรีย์ครบถ้วน สามารถนำไปเลี้ยงไข่ผำ พืชเศรษฐกิจได้ พวกเขาจึงนำความรู้จากวันแรกมาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ ก่อนจะลงมือทำอาหารกลางวันด้วยตัวเอง เริ่มจากไข่เจียวไข่ผำและต้มจืดตำลึงหวาน เด็ก ๆ ทั้งตื่นเต้นและชื่นชมไปพร้อม ๆ กัน และปิดท้ายภาคสนามด้วยการเรียนรู้การผสมดิน รวมถึงการดูแลไส้เดือน ซึ่งความรู้เหล่านี้เด็ก ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับแปลงผักของตนเองได้ 🧡 เราทุกคน คือ ส่วนหนึ่งของวัฏจักร ตลอดภาคสนามทั้งสองวันนี้ เหล่าเด็กเพลิน ระดับชั้น 1 ได้เห็นความสำคัญของ การหมุนเวียนธาตุอาหาร และความเชื่อมโยงของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ เมื่อสิ่งมีชีวิตหนึ่งสิ้นอายุ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการหล่อเลี้ยงชีวิตอื่น ๆ ต่อไป ทุกชีวิตล้วนมีบทบาทและคุณค่า และเราในฐานะมนุษย์ที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฎจักรอันน่าอัศจรรย์นี้ เรารับบทสำคัญในฐานะ ผู้ดูแลธรรมชาติ ดังนั้นการเรียนรู้ครั้งนี้ จึงได้วางรากฐานสำคัญให้เด็ก ๆ นำความรู้ไป ต่อยอดสู่การทำโครงงานวิจัยของตนเองอย่างมีความหมายต่อไป ——————————— 🙏 ขอขอบคุณเรื่องเล่าเร้าพลังใจ จาก คุณครูหน่วยประสบการณ์การเรียนรู้มานุษกับโลก และโครงงานวิจัยประจำภาคเรียน ระดับชั้น 1 _______________________________________________________ ติดตามบทความและภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เพจโรงเรียนเพลินพัฒนา 👇 https://www.facebook.com/share/p/17pep4hAAF/
พัฒนาเมนูเพื่อคนที่ห่วงใย…ใส่ใจสุขภาพ จากภาคสนาม ชั้น 2
เด็ก ๆ เติบโตขึ้นในยุคที่มีอาหารให้เลือกมากมาย ทั้งเมนูสะดวกซื้อ ขนมหวาน และของกินหลากสีสันรอบตัว แต่หลายครั้งพวกเขาอาจยังไม่รู้ว่าอะไรดีต่อร่างกายจริง ๆ และอะไรที่ควรเลือกอย่างระมัดระวัง ภาคสนามของชั้น 2 จึงชวนเด็ก ๆ ออกเดินทางไปเรียนรู้เรื่อง ร่างกายและอาหาร ผ่านประสบการณ์จริง โดยพาพวกเขาไปสำรวจสารอาหารและโภชนาการอย่างใกล้ชิดจาก ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและอาหารสุขภาพ 👩🎨 วันที่ 1 : เริ่มต้นเรียนรู้โภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ โดย ครูปั้น นักโภชนาการ ครูปั้นพาเด็ก ๆ ทบทวนความรู้เรื่อง “ธงโภชนาการ และสารอาหาร 5 หมู่” พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารและวัตถุดิบในแต่ละหมู่ เพื่อให้เด็ก ๆ เรียนรู้ว่าอาหารแบบไหนคือ Healthy (ควรรับประทาน) และแบบไหนคือ Unhealthy (ควรลดหรือหลีกเลี่ยง) โดยเฉพาะ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่ให้พลังงานนานคงระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และช่วยให้มีอารมณ์ดีและมีสมาธิ มีใยอาหารช่วยเรื่องการย่อยและขับถ่าย แถมอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกด้วย เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ฟักทอง เป็นต้น ส่วนคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ขนมปังขาว เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ลูกอม ทำให้พลังงานพุ่งเร็วแต่ก็หมดเร็ว ส่งผลให้หิวบ่อย น้ำตาลในเลือดไม่คงที่ กระทบต่ออารมณ์ และเพิ่มความเสี่ยงฟันผุ เด็ก ๆ จึงได้เห็นภาพชัดขึ้นว่าการเลือกอาหารมีผลต่อทั้งร่างกายและสภาวะอารมณ์ของตนแค่ไหน 🍨 ไอศกรีมแสนอร่อย จากสารให้ความหวานทดแทน โดย คุณนิว จากร้าน Flavorful no sugar ice cream จุดเริ่มต้นของการทำไอศกรีมแสนอร่อย เกิดจากโจทย์ที่คล้ายกับงานวิจัยของเด็ก ๆ เพราะ สามีของคุณนิวป่วยเป็นโรคเบาหวาน แต่ชอบรับประทานไอศกรีมมาก คุณนิวจึงอยากทำไอศกรีมที่อร่อยเหมือนเดิม แต่ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เป็นความตั้งใจเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความรัก และเพื่อประสบการณ์เรียนรู้ของเด็ก ๆ คุณนิวยกตัวอย่าง การใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติแทน น้ำตาลทราย เช่น ไซลิทอล และ อัลลูโลส ที่หวานได้โดยไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด กลายเป็นแนวคิดหลักของวันนี้คือ “No sugar but sweet” ในกิจกรรมนี้เด็ก ๆ ได้ทดลองทำไอศกรีมสูตรพิเศษอย่างรสชาติขึ้นฉ่าย + เสาวรส + แอปเปิ้ล เป็นรสชาติแปลกใหม่ที่หลายคนไม่เคยชิมมาก่อน พวกเขาได้ลงมือทำ สังเกต และชิมรสชาติ เสียงสะท้อนจากเด็ก ๆ ที่ไม่ชอบทานผักคือ “อร่อยจนลืมไปเลยว่าใส่ผักขึ้นฉ่ายลงไปด้วยเลย ❗” วันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัน ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็ก ๆ ในการสร้างสรรค์อาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อคนที่เรารัก 🌟 แคลฯ น่ารู้…หนูสุขภาพดี ช่วงบ่ายเด็ก ๆ ได้สนุกกับคณิตศาสตร์ควบคู่ไปกับการเรียนรู้เรื่องโภชนาการ ผ่านภารกิจ “นักสืบพลังงานอาหาร” เด็ก ๆ ทุกคนลองคำนวณพลังงานจากเมนูต่าง ๆ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน โดยใช้ทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน ทั้งบวก ลบ และคูณ เพื่อหาค่าพลังงานรวมของอาหารแต่ละมื้อ ก่อนจะนำตัวเลขที่ได้ไปเทียบกับค่าพลังงานที่เหมาะสมตามวัย กิจกรรมนี้ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกคิดวิเคราะห์ว่า “วันนี้หนูรับประทานเหมาะสมแล้วหรือยังนะ” “ควรเพิ่มอาหารดี ๆ อะไรอีกบ้าง” และถ้ามากไป ก็ได้เรียนรู้ว่าจะเคลื่อนไหวร่างกายแบบไหนเพื่อช่วยเผาผลาญได้ อย่างเหมาะสม เป็นการใช้คณิตศาสตร์ที่ช่วยให้เด็ก ๆ วางแผนการรับประทานอาหารและดูแลสุขภาพไปพร้อมกันอย่างเป็นธรรมชาติ 💖 กิจกรรมสัญลักษณ์สลักใจ เมื่อใกล้สิ้นสุดวันแรกของการออกภาคสนาม คุณครูชวนเด็ก ๆ แลกเปลี่ยนและสะท้อนความรู้สึกจากประสบการณ์ตลอดทั้งวัน เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่น และเต็มไปด้วยการฟังซึ่งกันและกัน เด็กบางคนพูดถึงความภูมิใจที่ได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ชิมอาหารทั้งแบบ Healthy และ Unhealthy บางคนแบ่งปันความตื่นเต้นที่ได้ลองไอศกรีมสดชื่นแบบไม่ใช้น้ำตาล ทุกเสียงล้วนมีคุณค่าในพื้นที่การเรียนรู้ร่วมกันแห่งนี้ 💤 ก่อนเข้านอน คุณครูเปิดวงสนทนาอีกครั้ง ชวนเด็ก ๆ เล่าถึงความกังวลของการมาภาคสนาม ในวัยประถมต้น การค้างคืนที่อื่นสร้างความกังวลไม่น้อย แต่ทุกความกังวล คุณครูรับฟัง “หนูคิดถึงบ้าน” “อยากนอนกับคุณพ่อคุณแม่” “ตอนนี้ที่บ้านกำลังทำอะไรอยู่นะ” เสียงเล็ก ๆ เหล่านี้สะท้อนออกมาในพื้นที่แห่งความปลอดภัย มีทั้งครูและเพื่อน ๆ คอยรับฟัง และเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาได้ออกแบบ “สัญลักษณ์สลักใจ” แผ่นผ้า ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่สร้างขึ้นจากหัวใจ เพื่อพกไว้เป็นพลังใจอุ่น ๆ ให้หลับสบายในค่ำคืนนี้ 🌱 วันที่ 2 : ณ ร้านออร์แกน บายสมาร์ท ไนน์ฟาร์ม อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เด็ก ๆ ได้พบกับ คุณเต้ เจ้าของร้านอาหารเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนรักสุขภาพ ผู้เคยทำงานเป็นพยาบาล ก่อนเลือกเดินต่อบนเส้นทางที่หลอมรวมความรักการดูแลผู้คน เข้ากับความหลงใหลในการปลูกผัก คุณเต้เรียนรู้ ทดลอง และลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ด้วยหลักการที่ว่า “ความตั้งใจของพวกเรา คือ การทำผักดี ให้คนรอบข้างได้กิน เราะเราคิดว่า มันคือ การแสดงความรักด้วยกายและใจ ได้โดยไม่ต้องใช้วาจา” 🍗 คุณเต้พาทำเมนูสเต๊กอกไก่นุ่ม ๆ คู่กับน้ำสลัดสูตรพิเศษ ต่อด้วยเมนูยำผลไม้ สองเมนูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความหมาย เพราะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบต่าง ๆ ส่วนในช่วงบ่ายคือหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ เด็ก ๆ ได้เดินสู่แปลงผักของคุณเต้ ได้ลองสัมผัสพื้นที่ปลูกผักและการเลี้ยงไก่อินทรีย์ เรียนรู้การเก็บดอกไม้กินได้ และต้นอ่อนผักบุ้งอายุ 7 วัน ซึ่งถือเป็น Super Food ที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ สิ่งที่เก็บได้ทั้งหมดจะ ถูกนำมาทำเมนู “ม้วนรัก…สลัดโรล” เมนูเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความหมาย เพราะเด็ก ๆ ตั้งใจทำเพื่อมอบให้คนที่พวกเขารักอยู่ที่บ้าน 😇 เมื่อภาคสนามแสนอร่อยนี้จบลง เด็ก ๆ ได้เห็นว่าความสุขจากอาหารดี ๆ นั้นอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด และได้ตระหนักว่า… “อาหารดี ไม่ได้เริ่มต้นที่มือ… แต่เริ่มต้นที่ใจที่อยากให้ใครสักคนมีความสุขและมีสุขภาพที่ดี” —————————— 🙏 ขอขอบคุณเรื่องเล่า ภาคสนาม ชั้น 2 จาก คุณครูกุ๊ก – อาภาพร กิจพ่อค้า _______________________________________________________ ติดตามบทความและภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เพจโรงเรียนเพลินพัฒนา 👇 https://www.facebook.com/share/p/17yzVH8f5L/
ภาคสนาม : การเรียนรู้จากของจริง พื้นที่ของชีวิตที่งอกงามด้วยปัญญา (ชั้น 4-6)
🚌 การเรียนรู้ภาคสนาม คือกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ออกไปพบเห็น ลงมือปฏิบัติและเรียนรู้ในสถานการณ์จริง เพื่อเชื่อมโยงความรู้ในห้องเรียนกับชีวิตจริงอย่างมีความหมาย 💖 จุดเด่นของภาคสนาม อยู่ที่การให้เด็กได้มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น ลงมือค้นคว้า สังเกต เก็บข้อมูล และคิดวิเคราะห์จากสภาพจริง ซึ่งเป็นกระบวนการการเรียนรู้เชิงวิจัยที่กระตุ้นให้เด็ก ๆ เกิดการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ในโลกจริง ได้ฝึกการตั้งคำถาม การสังเกตอย่างมีระบบ การทำงานเป็นทีม และการคิดสรุปเชิงเหตุผลด้วยตนเอง นอกจากนี้ ภาคสนามยังช่วยปลูกฝังเจตคติแห่งความรับผิดชอบ ความใฝ่รู้ ความอดทน และความเคารพต่อสิ่งรอบตัว ภาคสนามจึงเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ นุ่มลึกและงดงามกว่าทัศนศึกษา เพราะมิได้มุ่งเพียง “เปิดโลกทัศน์” หากมุ่ง “เปิดใจ เปิดปัญญา” เพื่อให้ผู้เรียนได้เติบโตจากภายใน ผ่านการลงมือเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง 🌳 ในวันนี้ช่วงชั้นที่ 2 มีเรื่องราวดีดีจากมุมมองของครูผู้จัดประสบการณ์การเรียนรู้ …โครงงานภาคสนาม…ที่ได้เห็นการเติบโตของเด็ก ๆ และบอกเล่าได้อย่างน่าสนใจ สะท้อนถึงความรักและเอาใจใส่ เป็นมุมมองเล็ก ๆ ที่งดงาม _______________________________________________________ ติดตามบทความและภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เพจโรงเรียนเพลินพัฒนา 👇 https://www.facebook.com/share/p/1G2EXT2vew/
ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า…รู้รักษาพลังงาน จากภาคสนามชั้น 3
ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เด็ก ๆ กำลังเติบโตในยุคที่พลังงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สะดวกขึ้น และเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่เบื้องหลังการผลิตไฟฟ้าสำหรับความสะดวกสบายเหล่านี้ เด็ก ๆ บางคนอาจไม่เคยเห็น จึงเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เรียนรู้อย่างแท้จริงจากภาคสนาม 🚗 ภาคสนามของชั้น 3 ในภาคเรียนจิตตะนี้ จึงพาเด็ก ๆ ออกเดินทางเพื่อมองเห็นคุณค่าของการใช้พลังงานบนโลกใบนี้ผ่านประสบการณ์จริง ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง จ. นครราชสีมา ⚡ วันที่ 1 : เปิดประตูสู่ความเข้าใจพลังงาน การเดินทางเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณครูพาเด็ก ๆ ไปยังศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. เด็ก ๆ ได้เห็นโลกของพลังงานอย่างใกล้ชิดตั้งแต่นวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าทันสมัย ไปจนถึงการค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้คนทั้งประเทศ เมื่อคุณครูถามเด็ก ๆ ว่าทำไมเราจึงต้องแสวงหานวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าใหม่ ๆ ❓ เด็ก ๆ ตอบโดยทันทีว่า “เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าของพวกเรามากขึ้นทุกวัน” คำตอบนี้สะท้อนว่าเด็ก ๆ เริ่มเชื่อมโยงได้แล้วว่าพวกเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ค่ำวันนั้น คุณครูชวนเด็ก ๆ เข้าสู่กิจกรรมสุนทรียสนทนา โดยหลับตาฟังเสียงธรรมชาติ จากนั้นลืมตาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้าคือภาพป่าที่ถูกทำลาย หรือสัตว์ป่าจำนวนมากต้องล้มตายเพราะไม่มีที่อยู่ พร้อมกับคำถามที่ว่า เราจะทำอย่างไรให้การสูญเสียเหล่านี้คุ้มค่าที่สุด ❓ เด็ก ๆ เงียบคิด ก่อนเขียนปณิธานในการใช้ไฟฟ้าอย่างคุ้มค่าลงบนกระดาษใบเล็ก ๆ “ขอบคุณที่ยอมเสียสละเพื่อให้หนูมีไฟฟ้าใช้” – หยก หยก 3/3 “ฉันจะประหยัดไฟฟ้าให้มากขึ้น ไม่ใช้อย่างสิ้นเปลือง จะได้ทำให้ป่าสดใส สมดุล ไม่สูญเสียอีก สัตว์ป่าจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข” – รินะ 3/4 🌳 วันที่ 2 : ส่งต่อความตระหนักรู้สู่การรักษาพลังงาน รุ่งเช้าวันใหม่ เด็ก ๆ เดินทางไปยังจุดชมวิวอ่างเก็บน้ำเขายายเที่ยง เพื่อซึมซับความงดงามของธรรมชาติ เด็กแต่ละคนเลือกมุมโปรดของตนเอง และสเก็ตภาพที่เห็นลงบนโปสการ์ด ภาพบนโปสการ์ดนั้นอาจต่างกัน แต่ความประทับใจที่ซึมลึกลงในใจนั้นเหมือนกัน คือความงามของธรรมชาติที่ควรได้รับการปกป้อง ข้อความแต่ละใบเต็มไปด้วยข้อความที่งดงาม ทั้งการบรรยายและบทกวีที่เด็ก ๆ รังสรรค์ขึ้นด้วยหัวใจ “ชีวิตต้องสูญสิ้น เพื่อแสงสว่างที่เราใช้ เบื้องหลังนั้นมืดมน” – อิ่มใจ 3/2 “ผืนป่าสวยงาม แต่กลับมอดไหม้ดับสิ้นลงจงคิดทบทวนเอา” – คิดดี 3/1 “เมื่อเรานั้นได้ดี กลับยังมีชีวิตสูญเสีย มีชาวบ้านลำบาก เราจึงจะต้องเริ่ม ที่จะเพิ่มเรื่องความใส่ใจ อย่ามีใครใช้สิ้นเปลือง” – มาร์ท 3/5 ปิดท้ายภาคสนามด้วยกิจกรรม “ผัดหมี่เชื่อมใจ สายใยปณิธาน” เด็ก ๆ ได้ลิ้มรสหมี่โคราช อาหารถิ่นอันหอมกรุ่น อบอวลไปด้วยเรื่องราวของการเดินทาง ครั้งนี้ เส้นหมี่เส้นยาวเปรียบเหมือนปณิธานที่คุณครูหวังว่าจะอยู่ในใจของเด็ก ๆ ไปอีกนานแสนนาน ภาคสนามทั้งสองวันนี้พาเด็ก ๆ เห็นทั้งพลังงานที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น และอีกด้านของธรรมชาติที่ต้องสูญเสีย พวกเขาเริ่มเข้าใจว่าไฟฟ้าที่ใช้ทุกวันมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่ใช่เพียงแค่ค่าไฟ แต่คือความสูญเสียของธรรมชาติและชีวิตอีกมากมาย 💖 เมื่อเด็ก ๆ ได้เรียนรู้และตั้งใจใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า โลกของเราก็ได้ “ผู้ดูแลตัวน้อย” เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบคน เด็ก ๆ เหล่านี้กำลังเติบโตด้วยหัวใจที่อ่อนโยน มั่นคง และมีเมล็ดพันธุ์แห่งความรับผิดชอบอยู่เต็มหัวใจ ——————————— 🙏 ขอขอบคุณเรื่องเล่า ภาคสนาม ชั้น 3 จาก คุณครูมิลค์ นิศาชล พูนวศินมงคล _______________________________________________________ ติดตามบทความและภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เพจโรงเรียนเพลินพัฒนา 👇 https://www.facebook.com/share/p/17cvAybW5y/
เรียนรู้ เกื้อกูล ธรรมชาติ ที่ “LandLab” – ภาคสนามอนุบาล 2 ภาคเรียนจิตตะ
ที่ "LandLab" – ภาคสนามอนุบาล 2 ภาคเรียนจิตตะ