เรื่องเล่าเร้าพลัง ลมข้าวเบา 2566 อาสาคัดแยกขยะ

อีกหนึ่งภาพความประทับใจในงานลมข้าวเบาเงาเดือนเพ็ญ 2566 คือภาพเด็กน้อย ช่วงชั้นที่ 1 กับภารกิจจิตอาสาแนะนำการทิ้งขยะ ด้วยความขยันขันแข็ง แม้จะเหนื่อยร้อนแต่ยังคงมีรอยยิ้มสดใส

“ดีใจที่ได้ช่วยแนะนำการแยกขยะให้ทุกคน และไม่เหนื่อยไม่กลัวเลอะเทอะค่ะ ชอบที่ได้เป็นจิตอาสาค่ะ” คำบอกเล่าจากเด็กๆ ปลอกแขนสีแดงคือสัญลักษณ์ที่สร้างพลังให้บรรดาอาสาตัวน้อยปฏิบัติงานกันอย่างแข็งขัน

ขอฝากคำชื่นชมส่งต่อไปถึงเด็กๆ ให้หัวใจฟู

“เด็กๆ แนะนำการทิ้งได้ดี พูดเก่งและน่ารักมากค่ะ พอมาทิ้งรอบหลังต้องดูดีๆ เลยค่ะ”

“เด็กๆ ตั้งใจกันมากเลยค่ะ แม่สังเกตเห็นพอใครทิ้งผิดถัง น้องก็จะมีทีคีบขยะแยกให้ทันที”

“เป็นกิจกรรมที่ดีมากครับ หากเราช่วยกันแยกแบบนี้จนเป็นนิสัยก็จะช่วยให้การ recycle ง่ายขึ้นก่อนถึงปลายทาง”

สำหรับกิจกรรมการรณรงค์แยกขยะในงานลมข้าวเบานั้น คณะผู้จัดงานมีความตั้งใจที่อยากจะชวนทุกคนในชุมชนเพลินพัฒนาร่วมกันลดขยะ ลดพลาสติกให้ได้มากที่สุด จึงเป็นจังหวะที่ดีเมื่อครูหนึ่ง หัวหน้าช่วงชั้นที่ 1 ได้แสดงความตั้งใจอยากเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้ทำงานจิตอาสาแยกขยะ โดยมีครูกิ๊บ หน่วยวิชา ESL ชั้น 2 ซึ่งเปิดกลุ่มการงาน Green Dream ทีม KIDS พิชิตขยะ ให้เด็กๆที่สนใจเรื่องปัญหาขยะควบคู่ไปกับการพัฒนาภาษาอังกฤษ ครูกิ๊บจึงเป็นแรงสำคัญที่มาช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมในครั้งนี้ในงานลมข้าวเบาด้วย

ขอแบ่งปันมุมสะท้อนเบื้องหลังความตั้งใจอย่างแรงกล้าของครูกิ๊บในเรื่องนี้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนสร้างการเปลี่ยนแปลง ที่ใครๆ ก็ทำได้

โดยปกติตัวเองจะแยกขยะอยู่ที่หอพัก จุดเริ่มต้นมาจากคำถามและความไม่มั่นใจที่ว่า “หากเราทิ้งขยะทุกอย่างในถังใบเดียวกัน แล้วขยะของเราจะเดินทางไปที่ไหน มันจะต้องไปจบที่ภูเขาขยะหรือเปล่า และจะต้องรอวันย่อยสลายถึง 100 ปีไหม” เมื่อคิดเช่นนั้นจึงเริ่มแยกขยะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะคิดว่าขยะทุกชิ้นมีคุณค่าและมีบ้านของตนเอง เมื่อตนเองสนใจและแยกขยะมาเรื่อย ๆ ก็มีโอกาสไปทำกิจกรรมและเรียนรู้การจัดการขยะในที่ต่าง ๆ โดยได้เข้าค่ายคณะเศษสร้างปี 2: แอ่วเหนือขึ้นดอยตามรอยวิถีไร้ขยะกับ TCP Spirit นอกจากนี้ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรม Waste Diary: คนหลังถัง กับ TEDxBangkok 2023 สิ่งที่ได้ไปพบเจอจากการเข้าร่วมกิจกรรมยิ่งทำให้ย้ำกับตัวเองว่า “เราต้องแยกขยะต่อไป” เพราะขยะที่ไม่ได้แยกจะถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทาง คือ บ่อฝังกลบ ที่อาจส่งผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อมโดยที่เราไม่คาดคิด เนื่องจากขยะที่ถูกส่งไปยังบ่อฝังกลบอาจเกิดการรั่วไหลของน้ำขยะทำให้แหล่งน้ำเน่าเสีย คนและสัตว์น้ำอาศัยอยู่ไม่ได้ อีกทั้งขยะอาจไหลลงสู่ท้องทะเลทำให้เป็นอันตรายต่อเต่า วาฬ ปลา และสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่เข้าใจว่าเศษขยะเหล่านี้เป็นอาหาร ดังนั้นการแยกขยะจึงมีความสำคัญและเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเห็นคุณค่าอย่างมาก

จากกิจกรรม Waste Diary ทำให้ครูกิ๊บมีโอกาสไปดูการจัดการขยะที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช แต่ละวันมีรถขยะเข้า-ออกหลายคัน แต่ละคันนำขยะจากครัวเรือนมาส่ง พี่พนักงานท้ายรถขยะเป็นด่านแรกที่ช่วยแยกขยะ พอถึงที่ศูนย์ขยะท้ายรถจะถูกเทรวมกัน เดินทางผ่านสายพานเพื่อคัดแยกขยะแล้วนำเศษอาหารไปทำปุ๋ยอินทรีย์ ระหว่างเส้นสายพานมีพี่พนักงานที่ช่วยคัดแยกขยะอีกครั้ง โดยจะแยกขยะที่ขายได้หรือรีไซเคิลได้ออกมาซึ่งนับเป็นด่านที่สอง อยากให้ทุกคนลองจินตนาการภาพตามนะคะ กองขยะสูงท่วมความสูงของเราและเต็มไปด้วยขยะหลากหลายชนิด ทุกอย่างถูกทิ้งปนกัน แน่นอนว่าทุกชิ้นไม่ได้สะอาดแต่มีคราบสกปรกและเริ่มส่งกลิ่นเหม็น รวมกันมากเข้าก็เป็นกลิ่นที่ไม่น่าพึงประสงค์เลย หากมองอย่างละเอียดจะพบว่ากองขยะเหล่านี้มีทั้งขวดน้ำ กิ่งไม้ กล่องข้าว แก้วพลาสติก ขวดแก้ว แม้กระทั่งหมวกกันน็อค รวมถึงเศษอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย เรื่องเศร้าของคนที่แยกขยะมาตลอดจะทราบดีว่าขยะเหล่านี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางมาที่นี่เลย แม้ว่าจะมีสองมือของพี่พนักงานช่วยแยกขยะอีกรอบ แต่ก็มีแค่สองมือกับสองตาค่ะ แยกแบบละเอียดไม่ไหวจริง ๆ หากเป็นเช่นนั้นขยะที่ไม่ถูกแยกก็ไม่มีทางเลือกต้องถูกส่งไปบ่อฝังกลบที่มีแต่สูงขึ้นทุกวัน ๆ และไม่รู้เลยว่าจะเกิดบ่อฝังกลบใหม่ใกล้บ้านของเราวันใดวันหนึ่งหรือเปล่า

จากความสนใจส่วนตัวและการตระหนักในปัญหานี้ทำให้ครูกิ๊บอยากบอกต่อและเล่าเรื่องราวนี้ให้ทุกคนฟัง เรื่องของขยะไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราต่างผลิตขยะชิ้นใหม่ขึ้นทุกวัน ๆ แต่เรามีการจัดการที่ดีได้ค่ะ และแน่นอนว่าจะจัดการคนเดียวไม่ได้ “เราต้องการทีม” นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรับสมัครอาสาคัดแยกขยะในวันลมข้าวเบาซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เราเปิดรับสมัครอาสาคัดแยกขยะจากนักเรียนระดับชั้น 2 และ 3 ทั้งนี้มีการตอบรับจากคุณครูและเด็ก ๆ ที่ดีมากและมีเด็ก ๆ จำนวนมากถึง 45 คน ร่วมเป็นอาสาคัดแยกขยะ แต่ละวันจะแบ่งเป็นสองรอบ ๆ ละ 30 นาที รอบที่ 1 เวลา 15.45 – 16.15 และรอบที่ 2 เวลา 16.15 – 16.45 น. ในฐานะครูผู้ดูแลครูกิ๊บขอขอบคุณครูโอ่งและครูออมที่ช่วยดูแลเหล่าอาสา ขอบคุณครูหนึ่งและครูอ้อมที่จุดประกายการรับสมัครอาสาคัดแยกขยะในครั้งนี้ ขอขอบคุณครูผู้อยู่เบื้องหลังทุกท่านที่ช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าอาสาดำเนินไปได้ด้วยดี และที่สำคัญขอขอบคุณพี่แม่บ้านทุกท่านผู้อำนวยความสะดวกและช่วยดูแลให้บรรยากาศในงานของเราสะอาดและน่าเดิน

วันนี้ความสุขส่วนตัวได้กลายเป็นความภูมิใจส่วนรวม สิ่งที่พวกเราทำจะช่วยพาขยะกลับบ้านได้ถูกหลังและลดขยะไปสู่ landfill ให้ได้มากที่สุด เคยได้ยินว่าหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ยากที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อย่างไรก็ตาม วันนี้พวกเราได้เริ่มต้นแล้วค่ะ หวังว่าทุกคนจะเริ่มต้นทำสิ่งดี ๆ นี้ไปด้วยกันนะคะ

ขอบคุณเรื่องเล่าเร้าพลังจากครูกิ๊บที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้เด็กๆ ได้หันมารับผิดชอบต่อส่วนรวม และได้ทำกิจกรรมดีๆ ที่จะไม่จบแค่เพียงในงานลมข้าวเบา เด็กสามารถนำไปต่อยอดแยกขยะที่บ้านและบอกต่อคนใกล้ตัว ต้องอาศัยความร่วมมือจากพวกเราทุกคนช่วยกัน

โดย ส่วนสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ข้อมูล ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566