ภาคสนามชั้น 1 ไส้เดือนเพื่อนรัก

ดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับของเด็ก ๆ เวลาตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้และค้นพบความมหัศจรรย์ มันส่องสว่างเหมือนดวงดาว ยิ่งมองยิ่งช่วยเพิ่มพลังความมีชีวิตชีวาให้กับผู้ใหญ่อย่างเราได้มาก ๆ เลยนะ

วันนี้จะชวนทุกคนไปชมภาพและค้นหาดวงดาวของเด็กๆ ชั้น 1 กันค่ะ

  • จุดเริ่มต้น

ภาคสนามภาคเรียนวิริยะ เป็นเรื่องราวการสรรค์สร้างของธรรมชาติ ที่ให้กำเนิดสัตว์มหัศจรรย์ ที่เราเรียกกันว่า “ไส้เดือน” สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ใต้ดินที่สร้างประโยชน์ยิ่งใหญ่เกินตัว เป็นนักพรวนดินช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโต ดินอุดมสมบูรณ์ เป็นผู้ย่อยสลายขยะอินทรีย์ และแม้แต่มูลของเจ้าไส้เดือนยังเพิ่มธาตุอาหารแก่ดิน ช่วยกระตุ้นให้พืชงอกงาม เรียกได้ว่า ทุกช่วงชีวิตของไส้เดือนล้วนทำคุณประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ทั้งสิ้น

ยินดีที่ได้รู้จักนะ “เจ้าไส้เดือน”

…ท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ ขณะแบมือรับไส้เดือน ที่ครูและเพื่อนๆ ยื่นให้ จนกระทั่งไส้เดือนเริ่มขยับตัวไปมาบนมือน้อยๆ รอยยิ้มก็เริ่มผุดขึ้นมาบนใบหน้า สายตาเริ่มสำรวจ มือข้างหนึ่งจิ้มๆกดๆ (เอ๊ะ ตัวมันนิ่มๆ ลื่นๆ) ลองยกขึ้นมาดมกลิ่น พิสูจน์ซิ พี่ ๆ บอกว่า ไส้เดือนสายพันธุ์ Blue worm มีกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ มันหอมจริงไหมนะ…

บรรยากาศการเรียนรู้นอกห้องเรียน ตลอด 2 วัน 1 คืน เต็มไปด้วยประกายตา แห่งความสงสัยใคร่รู้ และอัศจรรย์ใจ…

  • Day 1

“แผ่นฟ้าเปรียบดังคุณพ่อ แผ่นดินเปรียบดังคุณแม่” ความเชื่อ ความศรัทธา สู่การรักและดูแลผืนดิน แผ่นฟ้า ธรรมชาติ ที่โรงเจเปาเก็งเต๊งงิ้วราย

เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพระแม่ธรณี ซึ่งนำไปสู่การรักและเคารพผืนดิน ทางโรงเจจึงใช้ไส้เดือนในการดูแลผืนดินแทนการใช้ปุ๋ยเคมี เด็ก ๆ ได้เข้าไปสัมผัสโรงเลี้ยงไส้เดือนขนาดใหญ่ ได้รู้วิธีการเตรียมบ้านให้ไส้เดือน สองมือขยำคลุกเคล้ามูลวัว แรก ๆ อาจมีเสียงบ่นเหม็นบ้าง แต่ยิ่งคุ้ยหาไส้เดือนในถังเจอมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตื่นเต้น ใครสังเกตเก่งๆ ก็จะพบไข่ไส้เดือนใบจิ๋ว และยิ่งโชคดีเข้าไปอีก เพราะเจอไส้เดือนกำลังออกจากไข่ด้วย!!

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมจากคุณครูภูมิปัญญาภาษาไทยที่พาเด็ก ๆ ผจญภัยตามหาใบไม้ไม้แห้งที่ไม่มีใครต้องการ สู่การค้นพบว่าแม้แต่สิ่งเล็กน้อยที่เราอาจมองข้ามกลับมีประโยชน์มากมายที่เราคาดไม่ถึง นำไปสู่การเห็นคุณค่าในการมีชีวิตอยู่ สัมผัสบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก ความสงบ ณ โรงเจเปาเก็งเต๊งงิ้วราย

  • Day 2

พื้นที่เล็ก ๆ ในชุมชนภาษีเจริญ ฟาร์มกลางกรุงที่มีจุดเริ่มจากการแก้ปัญหาขยะภายในครัวเรือนสู่ชุมชน แม้พื้นที่มีจำกัดแต่การเรียนรู้ไม่มีสิ้นสุด ที่ฟาร์มลุงรีย์

รถตู้ค่อย ๆ ขับผ่านตรอกซอกซอยในชุมชนภาษีเจริญ เด็กๆ ล้วนตื่นเต้นกับการมา “ฟาร์ม” ที่อาจแตกต่างจากที่เคยพบ เมื่อมาถึง ก็ได้พบกับเหล่าสัตว์นักย่อยสลาย ตัวช่วยในการกำจัดขยะในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นไก่ เป็ด หมู รวมถึงเรียนรู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการจัดการขยะแต่ละประเภท ได้รู้จักเพื่อนของไส้เดือน ได้สังเกต สัมผัสไส้เดือนสายพันธุ์ต่างๆ และเห็นหลากหลายแง่มุมการใช้ประโยชน์จากไส้เดือน เช่น การทำน้ำหมักมูลไส้เดือน ที่ลุงโอ๋ วิทยากร บอกเด็ก ๆ ว่า “ชาไส้เดือน” เพราะมีวิธีการทำคล้ายกับการชงชา การนำมูลไส้เดือนไปใช้เพาะเห็ด ปลูกผักและเวียนกลับมาเป็นอาหารให้กับเราได้

เด็กๆ ยังได้ของฝากจากฟาร์ม เป็นกระถางต้นอ่อนทานตะวัน ที่ใส่มูลไส้เดือน ให้เฝ้ารดน้ำรอคอยเพื่อเก็บมาทำอาหารได้อีก ๗ วัน ด้วยนะ และยังได้กระเป๋าใบจิ๋วทำมือ จากเศษถุงเพลาสติกเหลือใช้ ที่เด็ก ๆ ตั้งใจทำมาก ๆ เลยล่ะ

ภาคสนามในครั้งนี้นอกจากการเรียนรู้เรื่องราวของเจ้าไส้เดือนเพื่อนรัก ก็เป็น “การนอนค้างแรมครั้งแรก” ของนักเรียนชั้น 1 ซึ่งเป็นการเติบโตก้าวใหญ่ของเด็กๆทุกคน ในการดูแลจัดการตนเองโดยมีคุณพ่อคุณแม่เป็นกำลังใจให้อยู่ที่บ้าน การได้ออกไปเรียนรู้เรื่องราวมากมายในสถานที่ต่างๆ เมื่อกลับมาสู่รั้วโรงเรียน คุณครูได้ชวนเด็ก ๆ มองย้อนสะท้อนตน ทั้งในด้านความรู้สึก ความพยายามที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่เด็กๆได้สะท้อนออกมา คงสะท้อนถึงคุณลักษณะที่เรียกว่า “สุขง่าย…ทุกข์ยาก” ได้ลองทำสิ่งใหม่ๆที่ตนเองไม่เคยทำ เอาชนะความกลัว ความกังวลใจของตนเอง พิสูจน์ตนเองว่าสุดท้ายแล้ว “หนูทำได้”

ขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านที่มอบความรู้ คู่ความสุขกับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ในพื้นที่การเรียนรู้โรงเจเปาเก็งเต๊งงิ้วราย และฟาร์มลุงรีย์ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทุกท่านที่เปิดโอกาส เชื่อมั่น เชื่อใจ ในตัวของเด็ก ๆ และที่สำคัญคือนักเรียนชั้น 1 ผู้มีความวิริยะ และทีมคุณครูชั้น 1 ที่ร่วมดูแลเด็กๆ ทุกคนนะคะ

บทความโดย

ครูนุ่น ครูภูมิปัญญาภาษาไทยชั้น 1 และ ครูออม ครูประจำชั้นห้อง 1/3

โดย ส่วนสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ข้อมูล ณ วันที่ 27 กันยายน 2566