“เมืองมีภัยพิบัติ : ความพร้อมของคนและเมืองกับการรับมือสาธารณภัย”

ช่วงชั้นมัธยมจัดอบรมให้ความรู้และฝึกทักษะปฏิบัติการเอาตัวรอดจากเหตุสาธารณภัยให้กับนักเรียน ชั้น 10-12

ในหัวข้อ เมืองมีภัยพิบัติ: ความพร้อมของคนและความจำเป็นของเมืองกับการรับมือภัยพิบัติ

เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาธารณภัยในมิติต่าง ๆ และมีทักษะการเอาชีวิตรอดได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

❗ สาธารณภัยคืออะไร ?

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้บริหารของเมืองและผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ ชวนคิดชวนคุยเกี่ยวกับคำว่าสาธารณภัยโดยการชวนนักเรียนมองว่า โรงเรียนของเรามีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยอะไรได้บ้าง เพราะเหตุใด เพื่อทำให้เห็นว่าในพื้นที่ต่าง ๆ ย่อมมีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยต่าง ๆ แตกต่างกันไป และภัยเหล่านั้นอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกันไปด้วย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ซึ่งทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า “สาธารณภัยว่า เป็นอันตรายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ส่วนรวม โดยมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ซึ่งรวมทุกภัยไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติหรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์”

😇 เมื่อคนต้องเผชิญกับภัยต่าง ๆ เรามักจะถูกบอกให้มีสติ ให้ตั้งสติให้ดี ๆ แต่เราเคยตั้งคำถามกันหรือไม่ว่า “สติ” ที่ว่านั้นเป็นอย่างไร ? และมันจะช่วยเราเมื่อเผชิญกับภัยต่าง ๆ อย่างไร ?

รองฯ ทวิดา ชวนนักเรียนขบคิดกับคำว่า

💡 “มีสติ”

เมื่อเกิดภัย โดยชวนทุกคนทบทวนเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาว่า ตอนที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว เราอยู่ไหน เราคิดอะไร รู้สึกอะไร และทำอะไร ซึ่งทำให้นักเรียนเข้าใจได้ว่า “การมีสติในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเมื่อเกิดภัยต่าง ๆ คือรีบตกใจให้เร็วที่สุด สั้นที่สุด นั่นหมายความว่า จะทำให้เรารู้ตัวว่าก่อนหน้านี้เรามีความรู้อะไรบ้างกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น เรามีข้อมูลออะไรบ้าง และเราได้รับการฝึกมาอย่างไร นี่แหละเรียกว่าการมีสติ”

🏬 เมืองจะรับมืออย่างไร ?

สำหรับคำถามนี้ รองฯ ทวิดา ชวนนักเรียนทำความเข้าใจบทบาทของเมืองกับการรับมือสาธารณภัยต่าง ๆ จาก BKK Risk Map ซึ่งเป็นฐานข้อมูลดิจิทัลพื้นที่จุดเสี่ยงความปลอดภัยที่กรุงเทพมหานครจัดทำขึ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าการมีข้อมูลสำคัญในการประเมินความเสี่ยงการเกิดสาธารณภัยจะช่วยให้เมืองสามารถบริหารจัดการสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

👨‍👧‍👧 คนจะรับมืออย่างไร ?

ทีมวิทยากรจากบริษัท ชิลด์ ไฟร์ เซฟตี้ เซ็นเตอร์ จำกัด ได้ชวนนักเรียนฝึกทักษะการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยเริ่มต้นจากการประเมินจุดเสี่ยงในพื้นที่ที่นักเรียนอาศัยอยู่และสังเกตสภาพแวดล้อมของห้องหรืออาคารว่ามีจุดใดที่จะปลอดภัยหรือจุดใดที่จะเป็นอันตรายได้บ้างหากเกิดเหตุแผ่นดินไหว

จากนั้นจึงให้สัญญาณนักเรียนในการฝึกเอาตัวรอดภายในอาคารจากเหตุแผ่นดินไหวอย่างถูกต้องและปลอดภัยผ่านหลักการ “Drop – Cover – Hold On” รวมทั้งการรับมือหลังเหตุแผ่นดินไหวโดยการอพยพออกสู่จุดปลอดภัย การเฝ้าระวัง Aftershock การติดตามข่าวสาร การสำรวจตัวเองและคนรอบข้าง และการสำรวจความเสียหายของอาคาร

👨‍🚒 นักกู้ภัย: งานอาสาที่ทำด้วยใจ

ช่วงท้ายของกิจกรรม พี่ ๆ วิทยากรจากชิลด์ ไฟร์ เซฟตี้ เซ็นเตอร์ ได้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานกู้ภัยจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศให้กับนักเรียนได้รับฟัง ทำให้นักเรียนมีความเข้าใจวิธีการทำงานของนักกู้ภัยในสถานการณ์จริง และรู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญและการเสียสละของนักกู้ภัยทุกคน โดยพี่ ๆ วิทยากรเน้นย้ำให้เห็นว่า งานของกู้ภัยเป็นงานที่ทำด้วยใจ เราจึงต้องมีความพร้อม เพราะทุกวินาทีของการทำงานหมายถึงโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ประสบภัยเสมอ

📡 เหตุสาธารณภัยต่าง ๆ อาจไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว แต่การเตรียมตัวล่วงหน้าทั้งการมีความรู้และมีข้อมูลจะช่วยให้ลดความเสี่ยง และการฝึกซ้อมเป็นประจำก็จะทำให้เรามีโอกาสรอดมากขึ้น

ช่วงชั้นมัธยม โรงเรียนเพลินพัฒนา ขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านเป็นอย่างสูง

  • รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
  • ทีมวิทยากรจากบริษัท ชิลด์ ไฟร์ เซฟตี้ เซ็นเตอร์ จำกัด