เปิดจอมาเจอกัน : ชวนคิดชวนคุยกับ Rambler

15/08/2021

ข้อคิดสำคัญจากวงพุดคุย “เปิดจอมาเจอกัน” วงพูดคุยสบายๆ ของชุมชนเพลินพัฒนาช่วงหลังเลิกงาน ตอน ศิษย์เก่าและเพื่อนกลุ่ม Rambler ร่วมแบ่งปันแง่คิด มุมมอง และบอกเล่าถึงแนวคิด Design thinking เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 64 นอกจากความรู้ที่ได้คือการได้ “ฟังเสียง” ของเด็กรุ่นใหม่ที่เขามีวิธีคิด วิธีมองโลกที่ต่างไปจากรุ่นของพวกเรา (พ่อแม่ ) อย่างน่าสนใจ

“ น้องๆ คนไหนที่รู้แล้วว่าตัวเองชอบทำอะไร ก็ทำไปเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องไปยึดติดว่าสิ่งนี้เราจะต้องทำไปตลอดชีวิต เมื่อเวลาเปลี่ยน หลายอย่างก็ต้องเปลี่ยน ส่วนคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็ทำให้เต็มที่ลองทำหลายๆ อย่าง วิธีที่ดีที่สุดให้เราได้ค้นพบว่า เราอยากทำอะไร ให้เราได้รู้จักตัวเองได้เร็วคือการ Fail fast Learn fast” บิ้วท์ – นิพิธพนธ์ ทองพันธุ์ CEO Rambler ศิษย์เก่าเพลินพัฒนารุ่นที่ 8

“ พ่อแม่ไม่ควรถามลูกว่าอยากเป็นอะไร น่าจะถามว่าโตขึ้นอยากทำอะไร พอโลกเปลี่ยนไป บางสิ่งบางอย่างเรายังไม่รู้เลยว่ามีชื่ออาชีพนี้อยู่ในโลกนี้ด้วย การจะถามว่าอยากเป็นอะไรจะตอบค่อนข้างยาก น่าจะถามว่า อยากจะทำอะไรจะตอบได้ง่ายกว่าครับ ” เต็ม – สุชาติ นิหะ CINO (Chief innovation officer) – Rambler

“เห็นด้วยว่าอาชีพในอนาคตจะหลากหลาย เปลี่ยนแปลง ฝากถึงผู้ปกครองที่เป็นคนสนับสนุน และประคับประคอง เรามีประสบการณ์ที่จะช่วยเขาได้ แทนที่จะให้ลองผิดลองถูกเป็นร้อยเป็นพัน อย่างน้อยก็ลดจำนวนลง เคยมีคนตั้งคำถามว่า ให้ลูกลองทำหลายๆ อย่าง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าลูกชอบอะไร อยากทำอะไร คำตอบสั้นๆ ‘ สิ่งที่เด็กเจอ และชอบอาจจะผ่านไปแล้ว เราอาจจะมองไม่เห็นก็ได้’ พ่อแม่จึงต้องมีสายตาที่ไว ความรู้สึกที่ไว อย่างที่เด็กๆ บอก Fail fast Learn fast ให้เขาได้เรียนรู้สิ่งที่เขาทำผิดพลาด และมีพ่อแม่คอยสนับสนุน” คุณทวีสิน ฉัตรเฉลิมวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จาก SCG

“ น้องๆ ทำให้เห็นอนาคตของลูกเรา … เคยได้ฟังเรื่อง Design thinking มาบ้างแล้ว แต่วันนี้รู้สึกว่าได้มาใหม่จากวงนี้เลย คือการเลี้ยงลูกออกมาให้มีความสุขในตัวเอง มีความภูมิใจในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ มีความสุขกับการงาน ก็คือแนวคิดของ Design thinking น้องๆได้มาสร้างแรงบันดาลใจว่า Design thinking ใช้ได้กับ value ทุกอย่างที่อยู่บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะอยากทำอะไร ในเรื่องไหนก็ตาม ถ้าเราดึงแนวคิด Design thinking มาใช้จะช่วยขยายผลจากตัวเราเอง เหมือนกับเป็นผู้ให้คนรอบข้างเรา วันนี้จึงได้มุมมองในการเลี้ยงลูกค่ะ” แม่พิณ (กอหญ้า ชั้น 5 , กอข้าว ชั้น 3)