: การปรับการเรียนรู้ตามบริบทจริงของชีวิต
เมื่อวันศุกร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารและผู้ปกครองโรงเรียนเพลินพัฒนาได้ร่วมประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน เกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนในช่วงเวลาแห่งการถวายอาลัย
อาจารย์ธิดา พิทักษ์สินสุข (คุณครูหวาน) ผู้อำนวยการโรงเรียน และ
คุณครูศีลวัต ศุษิลวรณ์ (คุณครูปาด) รองผู้อำนวยการ ฝ่ายสนับสนุนคุณภาพการศึกษา ได้ร่วมอธิบายหลักการแนวทาง “การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์จริง” โดยมีอาจารย์กรองทอง บุญประคอง (คุณครูก้า) ประธานบริหารโรงเรียน ร่วมให้ความเห็นเพิ่มเติม
📍 โดยมีสาระสำคัญของการประชุม ดังนี้
๑. ความสำคัญของการเรียนรู้ในสถานการณ์จริง
เป็นการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับบริบทจริง และเป็นองค์รวมการเรียนรู้จะอยู่ในระดับลึกและส่งเสริมให้เกิด การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนผ่าน (Transformative Learning) อันก่อให้เกิดทัศนะ รวมถึงอุปนิสัยของผู้เรียนได้ง่าย
๒. ความหมายสำคัญของสถานการณ์จริงในปัจจุบัน
ประเทศไทยสูญเสียสมเด็จพระพันปีหลวง “ผู้ใหญ่” ที่เป็นสิริมงคลสูงยิ่งของชาติ ส่งผลให้แผ่นดินสมัยรัชกาลที่ ๙ สิ้นสุดลง และ ประเทศไทยก้าวสู่รัชสมัยของแผ่นดินใหม่ในรัชกาลที่ ๑๐ โดยสมบูรณ์
๓. หน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะครู
นักการศึกษา สถานศึกษา และ ประชาชน
เราต้องสร้างการเรียนรู้ที่ก่อให้เกิดคุณค่าสูงสุดแก่นักเรียน โดยเรียนรู้จากสถานการณ์จริง พร้อมทั้งปรับตัวให้การดำเนินชีวิตและ การทำงานอยู่ในครรลองของการถวายอาลัยอย่างเหมาะสม
๔. การสร้างธีมหลักของกิจกรรมในสถานศึกษาในช่วงนี้
จำเป็นต้องบูรณาการหลักการและความหมายเชิงลึกของกิจกรรมที่จะจัดผนวกกับหลักการของการถวายอาลัย เพื่อเพิ่มความหมายโดยยังคงคุณค่าของกิจกรรมไว้
🎯 แนวทางทั้งหมดนี้มีเป้าหมายให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุดจาก
“การเรียนรู้สถานการณ์จริง” รู้จักยืดหยุ่น ปรับตัว และเติบโตอย่างมั่นคงกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ตัวอย่างเช่น กิจกรรมฮาโลวีนแม้เป็นกิจกรรมเล็ก ๆ ภายในช่วงชั้น เมื่อคุณครูและนักเรียนเข้าใจแนวทางการเรียนรู้ในสถานการณ์จริงดังกล่าว จึงมีการปรับรูปแบบให้เหมาะสม โดยลดความรื่นเริงและความแฟนซีลง แต่เสริมคุณค่าแห่งการเรียนรู้เรื่องชีวิตและความตายอย่างลึกซึ้ง
🌾 สำหรับเทศกาล “ลมข้าวเบา…เงาเดือนเพ็ญ” งานใหญ่ที่เป็นงานรื่นเริงประจำปีของโรงเรียน ซึ่งมีกำหนดเดิมที่จะจัดขึ้นใน วันที่ ๕ – ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ แต่ไม่สามารถจัดในวันเวลาเดิมได้เนื่องจากกระชั้นชิดกับการสูญเสีย
*หมายเหตุ: เทศกาลลมข้าวเบา…เงาเดือนเพ็ญ คือในช่วงปลายฝน เมื่อข้าวชุดแรกสุกเต็มรวงเรียกว่า “ข้าวเบา” และลมเย็นจากเหนือพัดมา มีชื่อเรียกขานว่า “ลมข้าวเบา” ผู้คนร่วมแรงร่วมใจเกี่ยวข้าว มีการละเล่นพื้นบ้าน จึงเป็นเทศกาลรื่นเริงเฉลิมฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่มีความสุข สนุกสนาน
💭 ดังนั้น การจัดงานหลังลมข้าวเบาผ่านพ้นไป จึงต้องนำมาคิดใหม่ทั้งรูปแบบและเวลาที่เหมาะควร (ไม่ห่างจากเวลาเดิมมากนัก) และที่สำคัญคือ การนำหลักคิด “การเรียนรู้ในสถานการณ์จริง” ข้างต้น มาปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับช่วงเวลาแห่งการถวายอาลัยเช่นกัน โดยยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางประเพณี ศิลปะวัฒนธรรม และการเรียนรู้ของผู้เรียน
ซึ่งคณะทำงานทั้งฝ่ายผู้ปกครองและฝ่ายโรงเรียนได้ร่วมกันหารือมาโดยตลอดตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ และต้องใช้เวลาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน จึงอาจทำให้การแจ้งล่าช้าไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้

📍 โดยมีข้อสรุปในการจัดงานที่สร้างสรรค์ใหม่ เป็นงาน
“ลมเหนือพัดมา พารำลึกถึง”
ภายใต้แนวคิดการสืบสานพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวง ผนวกกับแนวคิดเรื่องศิลปวัฒนธรรม และกลิ่นอายของลมข้าวเบา โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒ – ๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ (เนื่องจากเดือนธันวาคม พ้นช่วงเดือนเพ็ญเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งไม่ใช่ช่วงลมข้าวเบา จึงต้องปรับเปลี่ยนชื่องานให้สอดคล้องเหมาะสม)
♥️ เมื่อมีโจทย์ที่ท้าทายขึ้น ยิ่งต้องขอความร่วมมือผู้ปกครองในการจัดเตรียมงาน ทำความเข้าใจกับนักเรียน และพร้อมใจกันที่จะสร้างสรรค์งานใหม่ในช่วงการถวายอาลัย โรงเรียนเชื่อว่าจะได้รับน้ำใจดีจากผู้ปกครองที่พร้อมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในชุมชนของเราเช่นที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้งานใหม่ที่จะเกิดขึ้น ยิ่งเกิดคุณค่าต่อการเรียนรู้และการรับรู้ ต่อเด็ก ๆ ภายใต้สถานการณ์จริง
💭 ก่อนจบการประชุม คุณครูหวาน ให้ข้อคิดร่วมกันของชุมชนเพลินพัฒนา
“ขอให้ชุมชนเพลินพัฒนาของเรา คงรักษาความเป็นชุมชนที่น่ารัก อบอุ่น เคารพ และฟังกัน ภายใต้บรรยากาศของความเป็นกัลยาณมิตร แม้จะมีความเห็นต่าง ก็จะไม่นำพาไปสู่ความขัดแย้ง แต่จะแปรเปลี่ยนเป็นการสร้างผลลัพธ์ที่รอบคอบและสร้างสรรค์มากกว่าเดิม เพราะเพลินพัฒนาของเรา…เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ เป็นพื้นที่อันอุดมต่อการเติบโตงอกงามของเด็ก ๆ และจะเป็นชุมชนที่มุ่งไปถึงสู่สิ่งที่ดีงามเสมอ ทุกการเปลี่ยนแปลง ทุกสถานการณ์ ก็มีดีใจบ้าง เสียใจบ้าง ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้างเป็นธรรมดา โรงเรียนเองก็ต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อ เมื่อพบจุดที่พลาด ก็ต้องพร้อมปรับปรุง แก้ไข จุดที่ทำแล้วได้ผลดี ก็เพียรทำต่อและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น”
โรงเรียนเพลินพัฒนาขอขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของบุตรหลาน และได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างหลากหลายในครั้งนี้ ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และความห่วงใยจากทุกท่าน จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุง เพื่อก้าวเดิน “อย่างพอดี” ต่อไปด้วยกันในฐานะ “ชุมชนแห่งการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทางวัฒนธรรม” ให้ดียิ่งขึ้น
______________________________________
ติดตามบทความและภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เพจโรงเรียนเพลินพัฒนา 👇














