เปิดมุมมองสร้างสรรค์สื่อยุคใหม่
นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเด็นทางสังคมในมิติต่าง ๆ ที่มีความเปลี่ยนแปลง มีผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนและสังคมอยู่ตลอดเวลา ผ่านกระบวนการศึกษาค้นคว้าประเด็นที่ตนเองสนใจ
เรื่องเล่า…ศิษย์เก่าเพลินพัฒนารุ่นที่ ๘ หลังก้าวจากรั้วเพลินไปหมาดๆ
“ซอ – นายศาสตร์ศิลป์ ช่วยนุ่ม” ตอนนี้ซอศึกษาอยู่ชั้นปีที่ ๑ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
สาขาวิศวกรรมเครื่องกลที่ผมเรียนมีเพื่อนเกือบ ๒๐๐ คนแบ่งเป็นภาคปกติกับพลังงาน ภาคปกติจะแยกได้หลายสาย เช่น ความร้อน จักรกล ส่วนพลังงานจะแยกเป็นพลังงาน และสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่จะเลือกเรียนภาคปกติกันครับ และจะแยกเรียนตอนปี ๓ การเรียนไม่หนักมากแต่งานจะเยอะครับ โดยเฉพาะงานเขียนแบบ คิดว่าอยู่มหาวิทยาลัยน่าจะมีเวลาว่าง ได้ทำสิ่งที่อยากทำ พอมาเรียนแม้จะมีเวลาว่างก็จริง แต่เราไม่สามารถทำในสิ่งที่เราอยากทำครับ ต้องทำงาน
แตกต่างกันมากครับ ชีวิตในมหาวิทยาลัยเหมือนจะง่าย เหมือนจะทำอะไรก็ได้ แต่ต้องมีความรับผิดชอบ ถ้ารับผิดชอบไม่พอก็จะไปไม่รอดครับ ปี ๑ ผมมีเรียนตั้งแต่ ๘.๓๐ – ๑๘.๓๐ น. เวลาพักไม่มีเลยนอกจากพักทานข้าว เรียน ๓ วิชาแต่จะเป็นคาบเรียนต่อเนื่อง เนื้อหาเลข ฟิสิกส์คล้าย ม.ปลายแต่ลงลึกมากว่าใช้วิธีการไม่เหมือนกัน
มีรุ่นพี่ที่เป็นไอดอลของผมคนหนึ่งเคยบอกว่า “เรียนมหาวิทยาลัยแล้วยังเรียนพิเศษ ก็เหมือนไปทำงานแล้วยังให้คนช่วยอยู่ ออกไปทำงานจริงๆ ไม่มีใครช่วยเราแล้ว” เทคนิคการเรียนของผมต้องอ่านทำความเข้าใจเองและเพื่อนช่วยกัน ภาควิชาของผมสอนให้รักกัน และช่วยกันเรียนครับ เพราะเรียนยากมีคนโดนรีไทร์เยอะ ผมอยู่หอห้องหนึ่งมี ๔ คน มีรูมเมทที่เก่งฟิสิกส์ เก่งเลขก็ช่วยกันครับ
กีฬาเฟรชชี่ผมเป็นคนนำการแสดง นำทำพาน เล่นดนตรีในงาน “ME DAY” เป็นกิจกรรมหลังงานไหว้ครูเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์ นักศึกษารุ่นพี่ รุ่นน้องของภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลครับ หลังงานนั้น เพื่อนก็ชวนเข้าชมรมดนตรีสากลของมหาวิทยาลัย ผมยังตัดสินใจอยู่ เพราะยังยุ่งอยู่ครับ
ที่เพลินฯ อย่างแรกคือภาษาอังกฤษ เพราะมาที่นี่ผมอยู่ห้องท็อป
สุดของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเพื่อนที่ไปจากเพลินอีก ๒ คน “ต้นสน” กับ “ชิต” ก็อยู่ห้องท็อปด้วยแต่เรียนคนละกลุ่มกันครับ การแบ่งห้องท๊อปภาษาอังกฤษจะแบ่งตามคะแนน โอเน็ต และการสอบวัดพื้นฐาน ห้องที่ผมเรียนมีประมาณ ๒๐ คนเรียนร่วมกับเพื่อนสาขาอื่นด้วยครับ
ก่อนจบการสนทนาจึงถามถึง “เป้าหมาย ในการเรียน” ซอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “ปี ๑ อยากทำให้ดีที่สุด และอยากจบได้เกรดมากกว่า ๓ ครับ”
โดย ส่วนสื่อสารองค์กร
ข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2560