รอยยิ้มที่เติบโตไปพร้อมการเรียนรู้
จากวันที่เปิดภาคเรียน “ฉันทะ” จนถึงวันนี้ที่สิ้นสุดภาคเรียน “วิริยะ”
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 โรงเรียนเพลินพัฒนาได้รับเกียรติอันสูงยิ่ง ในการเข้าพบและรับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ณ ทำเนียบองคมนตรี เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน
🔶 ทว่า สิ่งที่พวกเราได้รับกลับมานั้น มิใช่เพียงคำแนะนำเชิงการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็น แนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ที่มีคุณค่าระดับชาติ ในการสร้างพลเมืองที่สมบูรณ์และเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของประเทศ
🔷 โรงเรียนเล็งเห็นถึงความสำคัญของคำแนะนำเหล่านี้ และตระหนักดีว่า ภารกิจการสร้างเด็กเยาวชนไทยนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรั้วโรงเรียน แต่เป็นภารกิจร่วมกันของทุกภาคส่วน จึงขออนุญาตแบ่งปันสาระสำคัญบางส่วนจากคำแนะนำของท่านอาจารย์เกษม วัฒนชัย เพื่อให้ทุกท่านรับทราบถึงทิศทางการดำเนินงานของโรงเรียน และร่วมเป็นทีมเดียวกันในการนำหลักการเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลบุตรหลานของตนและเยาวชนของประเทศ
📌 1. “เด็กและเยาวชนคือมรดกในอนาคตของชาติ”
ท่านองคมนตรีเน้นย้ำถึงทัศนคติที่ผู้ใหญ่ทุกคนต้องมีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานของใคร แต่หากเป็นเด็กไทย ขอให้เราร่วมดูแล ร่วมสร้างด้วยกัน เพื่อปกป้องและพัฒนาศักยภาพของเยาวชน โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การไม่กระทำการใด ๆ ที่จะทำลายเด็ก ไม่ว่าจะเป็นจากอบายมุข หรือ จากการเลี้ยงดูแบบผิด ๆ
📌 2. การอบรมบ่มเพาะในห้วงปฐมวัยคือ “พิมพ์เขียว”
ท่านอาจารย์เกษม ได้ชี้ให้เห็นว่า ช่วงวัย 0-6 ขวบ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการ “สร้างพิมพ์เขียว” หรือแก่นอุปนิสัย ดังนั้นการพัฒนาเด็กจึงต้องเริ่มจาก “การเสริมความรู้ให้แก่พ่อแม่” ในการดูแลพัฒนาการของบุตรหลานอย่างถูกหลักการ ซึ่งห้องเรียนพ่อแม่ของโรงเรียนเพลินพัฒนาจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เป้าประสงค์สำเร็จ
📌 3. หลักการ “คุณธรรมคู่ทักษะ”: ให้ Literacy มิใช่แค่ Skill
การเตรียมพลเมืองสำหรับโลกอนาคตมิอาจทำได้ด้วยการมอบเพียงแค่ Skill (ทักษะด้านการปฏิบัติ) แต่ต้องให้ Literacy (ความสามารถในการรู้คิด มีวิจารณญาณ และรู้จักผิดชอบชั่วดี) ควบคู่กันไปตามคำกล่าวที่ว่า “เติมความรู้คู่คุณธรรม” ท่านอาจารย์เกษมย้ำเตือนว่า โรงเรียนเพลินพัฒนาต้องมุ่งสร้างให้เด็กเป็นคนที่ “ใช้เป็น มิใช่แค่ใช้ได้” ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการดำเนินชีวิต
📌 4. การหวนคืนสู่รากเหง้าเพื่อสร้างความผูกพันต่อส่วนรวม
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจและเป็นหนึ่งเดียว ท่านแนะนำให้หวนคืนสู่รากเหง้าความเป็นไทย ซึ่งเป็นสังคมที่เน้นความเป็น พี่น้อง มีน้ำใจต่อกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังนั้นการสร้าง “คนเต็มคน” จึงต้องนำวิถีไทยมาบูรณาการเข้ากับการศึกษา
📌 5. นวัตกรรมบนฐานความยั่งยืน: “สืบสาน รักษา และต่อยอด”
ท้ายที่สุด เพื่อการก้าวสู่อนาคตที่มั่นคง ท่านองคมนตรีได้แนะนำหลักการ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” เป็นกรอบคิดสำคัญในการพัฒนาโรงเรียนเพลินพัฒนา ซึ่งหมายถึงการคงไว้ซึ่งหลักการที่ดีงาม (รักษา) และนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเสริมคุณค่าในสิ่งที่สืบสานและรักษาไว้ (ต่อยอด) เพื่อให้การพัฒนานั้นสร้างสรรค์และยั่งยืน โดยมิได้ละทิ้งภูมิปัญญาดั้งเดิม
🙏 ทางโรงเรียนขอขอบพระคุณ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ที่ได้มอบแนวทางอันล้ำค่านี้
และขอเชิญชวนผู้ใหญ่ทุกท่านร่วมเป็น “ทีมเดียวกัน” ในการประคับประคองลูกหลานให้เติบโตอย่างงดงาม แข็งแรงทั้งกายและใจ เพื่อเป็นมรดกที่ล้ำค่าที่สุดของประเทศ