เปิดหมวก #1 มหกรรมดนตรีและศิลปะ2567
เปิดหมวก #1 มหกรรมดนตรีและศิลปะ2567เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ลานเล่น โรงเรียนเพลินพัฒนา “IN OUR DREAM” ของนักเรียนชั้น 9
ห้องเรียนพ่อแม่ “พ่อแม่เพลิน…เรียนรู้” ครั้งที่ 5 ปีการศึกษา 2566
วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมเพลินพัฒนา โรงเรียนเพลินพัฒนา
หัวข้อ “สร้างทุนชีวิต สร้างวิถีคุณธรรม”
วิทยากรโดย รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตรี
สรุปสาระสำคัญ
หลังจากรับชมคลิป คุณหมอชวนสะท้อนการเรียนรู้ – บ้านไหนให้ลูกทำงานบ้านเองบ้าง ?
ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยกมือแสดงตนว่าได้ให้ลูกช่วยทำความสะอาดบ้าน
คุณหมอขยายความว่า จิตวิญญาณสำคัญในการเลี้ยงลูกคือให้ช่วยงานบ้าน เนื่องจากจะได้ฝึก EQ
ฝึก Resilience หรือการล้มแล้วลุกเร็ว
สรุปเนื้อหา
การเจอกับความลำบากขั้นพื้นฐานของเด็กวัยเรียน ร่วมสู้ชีวิตกับผู้ปกครองโดยการทำงานบ้าน เพื่อเป็น
เด็กไทยหัวใจแกร่ง โดยที่ไม่ใช่การให้ลูกลงมือสู้ชีวิตด้วยตนเองเลย แต่ผู้ปกครองควรสนับสนุนให้ลูกเอาชนะ
อุปสรรคด้วยตนเอง ให้มีทักษะชีวิต รู้คิด จิตสำนึกก่อนเรียนเก่ง
Keyword สำคัญ “รู้คิด จิตสำนึกก่อนการเรียนเก่ง”
คุณหมอเสนอความคิดว่าให้ช่วงชั้นเลิกตัดเกรด ให้ใช้ฐานสมรรถนะแทน อาจส่งผลให้ผู้ปกครองอวดเกรดลูก และ
แชร์เกรดใน Social media จนทำให้ลูกรู้สึกกดดัน การทำงานบ้านสร้างวิถีคุณธรรมให้เด็กโดยที่ไม่จำเป็นต้องตัด
เกรด
ประเด็นที่คุณหมอชวนคิด : อยู่อย่างไรให้มีความสุข ในยุคที่มี Generation gap
กติกาในการอยู่ร่วมกัน ต่างจาก กฎ อย่างไร
กติกากับกฎแตกต่างกันตรงที่กติกาเกิดจากความคิดของทั้งสองฝ่ายเป็นข้อตกลงกัน แต่กฎเกิดความคิด
ของฝ่ายเดียว เช่น กฎของโรงเรียน บุคลากรทุกคนในโรงเรียนต้องใช้ทุกคน โดยไม่มีใครใช้อำนาจหรือปฏิบัติ
ต่างกัน แต่เรื่องเครื่องแบบเป็นกติกาที่ใช้เพื่อป้องกันเรื่องความปลอดภัย เรื่องการลดความเหลื่อมลํ้า โดยที่ให้ใส่
เฉพาะนักเรียน ผู้อำนวยการไม่ต้องใส่ด้วย ทั้งนี้การใส่ชุดไปรเวท หากคนที่เตรียมใส่เครื่องแบบคือพ่อแม่แทนที่จะ
ให้ลูกเตรียมเอง ลูกจะไม่ได้ฝึกความรับผิดชอบ ก็ไม่ต่างอะไรจากการใส่เครื่องแบบ
เมื่อลูกลืมนำของมาโรงเรียน หากพ่อแม่วนรถกลับมาส่งลูก นอกจากจะส่งผลกระทบให้รถติดแล้ว
ลูกก็ไม่ได้วินัยและความรับผิดชอบของตนเองด้วย
สะท้อนให้เห็นเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีคนแก่เดินข้ามถนน คนญี่ปุ่นหยุดรถให้คนแก่ข้ามก่อน
เป็นจุดเปลี่ยนคำนิยามของคำว่า “คุณธรรม” สร้างดัชนีชี้วัดคุณธรรม
เพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี ให้เด็กเรียนรู้วิถีคุณธรรมผ่านการท่องจำ เด็กจำได้เพราะต้องการล่ารางวัลในช่วงวัน
เด็ก จึงไม่ได้เข้าใจคุณค่าของวิถีคุณธรรม ไม่ได้เข้าใจหรือเห็นแนวทางการปฏิบัติจริงจากผู้ใหญ่ ในขณะที่บ้านเมือง
ยังมีผู้คนมากมายที่ไม่ปฏิบัติตามกฎ แต่บังคับให้เด็กทำตามกฎเด็กจึงโตไปไม่ได้มีวิถีคุณธรรมติดตัว
เป็ดมีก้านสมองต่อเข้าไขสันหลัง จึงเรียนรู้เป็นเงื่อนไข ส่วนมนุษย์มีสมองส่วนอารมณ์ (Limbic) และมี
Brain executive function
ดัชนีชี้วัดคุณธรรม (Moral index)
หลักการสร้างเครื่องมือดัชนีชี้วัดคุณธรรม
ถอดบทเรียนการเลี้ยงลูกจากพี่เลี้ยงชาวพม่า
คุณหมอเน้นยํ้าว่า
วิถีคุณธรรม ไม่เป็นนามธรรม ดูจากพฤติกรรม มีข้อตกลงร่วมกัน ไม่ใช่ข้อตกลงจากฝ่ายเดียว
คุณธรรมไม่ได้มีไว้ท่องจำ ให้แทรกในวิถีชีวิต
ตอนที่เด็กก้าวข้ามสิ่งกีดขวาง มีเด็กโตที่กว่ายอมถอยให้น้องเล็กกว่าเดินไปก่อน พอน้องขาติด พี่ก็ช่วย
และจูงมือน้องมา เมื่อผ่านสิ่งกีดขวางมาได้น้องขอบคุณพี่ แสดงให้เห็นถึงความกตัญญู ส่วนเด็กคนโตที่ยอมสละให้
น้องไปก่อน ครูสะท้อนให้เด็กคนโตเห็นว่าเค้ามีความเสียสละ เป็นการสร้างคุณธรรมในชีวิตจริง
การที่เด็กวาดรูปบนพื้นหรือขึงกระดาษไว้กับเชือก ทำให้วาดรูปยากขึ้น อาจจะมีเด็กที่โมโหเนื่องจากเจอ
สถานการณ์ที่ตนเองควบคุมได้ยาก ระเบิดอารมณ์ แต่เมื่อฝึกได้ เด็กจะได้ฝึกกำกับอารมณ์ตนเอง ทำให้เกิดความ
อ่อนโยน ความไม่โกรธ ความไม่เบียดเบียนผู้อื่น
เด็กสามารถพัฒนาคุณธรรมได้ตั้งแต่เด็กเล็ก แต่ต้องชื่นชมให้ฟังด้วยว่า การที่ลูกช่วยแม่ทำงานบ้านช่วยเบา
แรงแม่ไปเยอะ แสดงถึงความกตัญญู เพื่อให้เด็กซึมซับความกตัญญู เป็นการแทรกคุณธรรมผ่านวิถีชีวิตโดนไม่ต้อง
ท่องจำ
การเตรียมระบบนิเวศให้พร้อมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรม
กรณีเด็กท้องในวัยเรียน ถูกบีบออกนอกระบบ เมื่อต้องกลับมาก็จะถูกบูลลี่ ทำให้ไม่อยากกลับเข้าระบบ
สะท้อนให้เห็นระบบนิเวศที่ล้มเหลว หากเพื่อนอยู่ข้างกัน ไม่ล้อกัน เด็กจะพร้อมกลับมาในระบบ ทำให้คนดีมีที่ยืน
อย่าให้จนตรอก และใช้กฎหมายจัดการคนชั่ว เพื่อให้เกิดแรงเหวี่ยงในการเปลี่ยนแปลงสังคม ใช้ Soft power เพื่อ
เปลี่ยนแปลงสังคม
คำถามแลกเปลี่ยน
เมื่อลูกสาวต้องเรียนออนไลน์ในบ้าน เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างแม่กับลูก คุณแม่ได้เข้าร่วมหลักสูตร
ค่ายครอบครัวพลังบวก เปลี่ยนมุมมองการสร้างสัมพันธภาพท่ดี กี บั ลกู สร้างความแปลกใจให้ลูกเมื่อสังเกตเหน็ แม่ที่
เปลี่ยนไป เข้าใจลูกและคอยสนับสนุนมากขึ้น รวมไปถึงพ่อที่เปลี่ยนไปด้วย เมื่อนำคำแนะนำจากหลักสูตรมาใช้ที
ละนิด เมื่อพ่อแม่เปลี่ยนแปลง ลูกสาวก็เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เห็นอกเห็นใจเมื่อพ่อแม่ต้องทำงานหนัก และมีน้อง
คนเล็ก และพ่อแก่ที่ต้องดูแล ลูกสาวคนโตจะหุงหาอาหาร คอยดูแลพ่อแก่และน้อง ทำให้ครอบครัวนี้กลับมารักกัน
และเป็นครอบครัวที่อบอุ่น
สรุปสาระความรู้และเรียบเรียง โดย
คุณครูอรกช ไมตรี (ครูอิ่ม)
โดย ส่วนสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ข้อมูล ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2566