ชื่นชม..ชื่นใจ “น้องแคนเดิ้ล” ชนะเลิศภาพวาดระบายสี
“น้องแคนเดิ้ล - ด.ญ.สุพิชญ์ชญา จินตนะพันธ์ ” ชั้นป.3/5 ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดวาดภาพระบายสี หัวข้อ Miracle Style with Aquatic Life : อัศจรรย์กับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ
ขอแสดงความยินดีกับ “บิ้ว – นิพิฐพนธ์ ทองพันธุ์” ศิษย์เก่าเพลินพัฒนารุ่นที่ 8 กับรางวัล “GSSE Innovator” รางวัลที่เกิดจากการนำสิ่งที่เรียนในห้องไปใช้จริงในการสร้าง Social entreprise หรือ innovation โดยคัดเลือกจากนักศึกษาชั้นปีที่ 1 – 4 ของ ม.ธรรมศาสตร์ วิทยาลัยโลกคดีศึกษา หลักสูตรนานาชาติ (GSSE) ซึ่งขณะนี้บิ้วกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 บิ้วได้รับรางวัลนี้จากการสร้างแบรนด์ “Rambler” พาไปพูดคุยกับบิ้วถึงแรงบันดาลใจและแนวคิดการสร้างความมั่นคงทางเกษตรภายใต้แบรนด์ “Rambler” กันค่ะ
ถ้าพูดถึงที่มาตั้งแต่แรกสุด ต้องบอกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจเลยครับ ตอนแรกก็ไม่รู้จักคำนี้ครับ ไม่รู้ด้วยว่าแปลว่าอะไร แต่ด้วยความที่ชอบฟังเพลงสไตล์ country แล้วมีเพลงอยู่เพลงหนึ่งที่ชอบมากจากวง Zac Brown Band (วงจากอเมริกา) มีเพลงๆ หนึ่งที่มีคำนี้อยู่ในเนื้อเพลง ฟังแล้วสงสัยว่าแปลว่าอะไร แล้วก็ลองไป search ถึงได้รู้ความหมาย จริงๆ แล้ว Rambler แปลได้หลายความหมายครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึงคนที่เดินทางไปเรื่อยๆ ก็เลยคิดว่า น่าจะเอามาใช้เป็นชื่อธุรกิจของเรา เพราะสอดคล้องกับสิ่งที่ทำ คือเราเดินทางไปหาเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์จากหลายๆที่ในไทย ไปรวบรวมสินค้าเกษตรอินทรีย์จากหลายๆที่ และอีกเหตุผลคือฟังแล้วดู country ดีครับ
สิ่งที่เราทำคือ เราพยายามซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์จากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าปกติมาก และเรายังช่วยทำการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ตอนนี้เรากำลังพยายามขอการรับรองคุณภาพของเราเอง เพื่อที่เกษตรกรจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยเราเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการตรวจให้ทั้งหมด อีกสิ่งที่คิดว่าแตกต่างจากผู้ค้าอื่นคือ เราเปิดเผยแหล่งที่มาของสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างชัดเจน และเรากำลังจะมี farm tour เพื่อให้ลูกค้าได้ไปเจอกับเกษตรกรของเราที่แปลงปลูกเพื่อทำความรู้จักกับเกษตรกรและเกษตรอินทรีย์
Rambler เกิดขึ้นมาในช่วงที่ Covid-19 ในไทยระบาด (ประมาณเดือนมีนาคม) เราใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสในการเริ่มธุรกิจแบบ Farm to door ซึ่งเราจะส่งสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้กับลูกค้าถึงหน้าบ้านเลยครับ ที่ลูกค้าต้องทำก็แค่สั่งออนไลน์และรอรับสินค้า และสิ่งสำคัญเลยคือเรื่องราคาครับ เราพยายามทำให้ราคาสินค้าของเราไม่สูงมาก เพราะเรารู้ว่าสินค้าเกษตรอินทรีย์ส่วนใหญ่ในตลาดมีราคาสูง และเราลดต้นทุนเรื่องหน้าร้านไปได้เพราะเราไม่มีหน้าร้าน เราจะเหลือแค่ค่าแรงและค่าขนส่ง ตอนนี้สถานการณ์ Covid-19 ในไทยดีขึ้นมาก คนสั่งน้อยลงเพราะออกไปซื้อของข้างนอกมากขึ้น เราก็ปรับตัวด้วยการไปออกร้าน 1-2 วันต่อสัปดาห์ และในอนาคตคิดว่าจะมีหน้าร้านที่ขายอาหารด้วยครับ
ช่วงแรกๆ ก็มีปัญหาเรื่องสินค้าขายไม่หมดครับ เพราะเป็นของสด ถ้าเหลือก็จะเก็บไว้ไม่ได้ แต่ก็เรียนรู้และแก้ปัญหามาเรื่อยๆจนสามารถทำให้ไม่มีของเหลือ หรือมีก็น้อยมากๆ ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมาก็ถือว่าโอเคครับ ขาดทุนแค่ช่วงแรกๆแต่ต่อมา ก็ไม่ขาดทุนและอยู่ได้ครับ
ถ้าอยากเริ่ม เริ่มเลยครับ ไม่ต้องรอให้มีโอกาสหรือจังหวะอะไรเข้ามา เราสร้างโอกาสของตัวเอง อาจจะเริ่มจากอะไรที่ธรรมดามากๆ ไม่ต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่หรือซับซ้อน เป็นแค่ไอเดียง่ายๆที่เราคิดขึ้นมา พอเราเอาไปลองทำจริง จะเกิดการเรียนรู้ และเราจะสามารถต่อยอดได้เองครับ
ติดตามสินค้าเกษตรอินทรีย์ของบิ้วท์ได้ที่ : https://www.facebook.com/ramblerorganic