เราคือสิ่งแวดล้อมของกันและกัน
ตั้งใจเข้ามาช่วยงานโรงเรียน เพราะเชื่อว่าเราคือสิ่งแวดล้อมของกันและกัน และเพราะเด็กคนหนึ่งต้องใช้คนทั้งหมู่บ้านช่วยกันเลี้ยงดู (It takes a village to raise a child.)
สำหรับหลายคนการวิ่งเล่นกับว่าวอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมากแล้ว แต่สำหรับน้องอนุบาล 1 ที่ได้ไปภาคสนาม ณ บ้านปัจจุบัน ในภาคเรียนวิริยะนี้ นี่เป็นประสบการณ์แสนสนุกที่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในช่วงชีวิตวัยเด็กของเขาอย่างแน่นอน
“บ้านปัจจุบัน” ร้านอาหารและคาเฟ่เล็กๆ ในพื้นที่บ้านที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่น มีสนามหญ้าใหญ่ให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น มีของเล่นให้ปีนป่าย และของสะสมโบราณมากมายที่ช่วยประดับประดาสถานที่แห่งนี้ให้น่าสนใจ รวมถึง บ้านเรือนไทยโบราณที่หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน ช่วยตอบโจทย์
เป้าหมายภาคสนามในครั้งนี้ ที่เน้นให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับบ้าน เรียนรู้ลักษณะและประโยชน์ของห้องต่างๆ รู้จักบทบาทหน้าที่ของบุคคลในครอบครัว อีกทั้งเรียนรู้ผ่านกิจกรรมโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการสำรวจ สังเกต สัมผัส ทดลอง และ ลงมือปฏิบัติ เด็กๆ ได้เติบโตขึ้นในการดูแลช่วยเหลือตนเอง อยู่ร่วมกับคนอื่น เคารพสถานที่และผู้ใหญ่ รวมถึงใส่ใจสภาพแวดล้อมและธรรมชาติที่ตัวเองอยู่ โดยมีวิทยากรจากครอบครัวเจ้าของบ้านปัจจุบัน มาให้ความรู้เด็กๆ ในครั้งนี้
กว่าจะไปถึงกิจกรรมระบายสีว่าว และ วิ่งเล่นว่าวพร้อมคุณพ่อในช่วงบ่าย เด็กๆ จะมีโอกาสได้สำรวจบ้านเรือนไทยของคุณยาย ที่เต็มไปด้วยของสะสมหายากของไทยตั้งแต่เช้า ก่อนเข้าบ้านก็ต้องมีการแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ ด้วยการลอยดอกบัวในบ่อน้ำ เป็นภาพที่สวยงามเมื่อเด็กๆ ได้เตรียมจิตใจให้มีสมาธิก่อนทำกิจกรรมต่างๆ การได้เรียนรู้การทำขนมไทยต้นตำรับจากคุณยาย และคุณแม่ ก็นับเป็นโอกาสพิเศษที่หาได้ยากสำหรับเด็กในยุคปัจจุบัน แต่เด็กๆ ของเราได้เรียนรู้วิธีการทำขนมกล้วย ขนมฟักทอง และที่สำคัญคือ ได้ชิมผลงานของตนเองด้วย บอกเลยว่า อร่อยมากจนไม่เหลือกลับมาฝากใครเลย
เด็กๆ ยังได้เรียนรู้ด้านศิลปะด้วยการประดิษฐ์ไม้แขวนจากลูกตีนเป็ดกับคุณพ่อ เลือกลงสีสันแบบที่ชอบ และได้เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไป จนในที่สุดช่วงบ่ายก็ได้มีโอกาสระบายสีว่าวของตัวเองตามใจชอบและวิ่งเล่นกับคุณพ่อที่มาพร้อมว่าวแม่ตัวยักษ์สีส้มสดใส เสียงหัวเราสะท้อนความสนุกสนานดังไปทั่วสนามหญ้ายามบ่าย ปลุกให้สถานที่แห่งนี้มีชีวิตชีวาอย่างเต็มที่
ยามต้องจากกัน คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ ได้มานั่งพูดคุยชื่มชมเด็กๆ ส่งท้าย และร่วมฟังความประทับใจจากเด็กๆ อนุบาล 1 ว่าวันนี้สนุกหรือไม่ ชอบกิจกรรมไหนมากที่สุด และเด็กๆ ไม่ลืมที่จะกอดลาวิทยากรของเราทุกคน โบกมือบ๊ายบาย และสัญญาวว่าจะกลับไปเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ของตนฟังและจะกลับมาเยี่ยนเยือนที่แห่งนี้อีกแน่นอน
ขอขอบคุณคุณยายนา พ่อหนึ่ง แม่ปุ่น และน้องปัน ครอบครัวที่ได้สละเวลาเพื่อมามอบความรู้อันมีคุณค่า และพาเด็กๆ น้องเล็กอนุบาล 1 ของเราให้ได้สนุกสนานและเรียนรู้ความหมายของคำว่า “บ้าน และ ครอบครัว” ตั้งแต่ยังเล็ก ขอบคุณที่ทำให้เวลา “ปัจจุบัน” ของเด็กๆ เป็นขณะเวลาที่ดีที่สุด
โดย ส่วนสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2566