เราคือสิ่งแวดล้อมของกันและกัน
ตั้งใจเข้ามาช่วยงานโรงเรียน เพราะเชื่อว่าเราคือสิ่งแวดล้อมของกันและกัน และเพราะเด็กคนหนึ่งต้องใช้คนทั้งหมู่บ้านช่วยกันเลี้ยงดู (It takes a village to raise a child.)
” ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาชั้น ม.6 ทุกคน ที่ได้ฝ่าด่านชีวิตมาอีกด่าน และกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ด่านชีวิตอีกด่านหนึ่งคือการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ชีวิตที่ต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น ต้องปรับตัวเยอะขึ้นซึ่งจะต่างจากโรงเรียนอย่างมาก หลายคนได้ที่เรียนแล้ว หลายคนยังคงลุ้นกับการสอบที่กำลังจะมาถึง อยากให้พวกเราตระหนักว่าการเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต การเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยเป็นเพียงการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน บนสถานการณ์ที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงอยากจะฝากขอให้พวกเรามีความ “ใฝ่รู้” เพราะความใฝ่รู้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้เรามีคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาติอย่างแท้จริง เราต้องรู้และทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลง ใฝ่รู้มากกว่าหลักสูตรที่สอน สามารถเรียนรู้ข้ามคณะได้ หากในคณะนั้นไม่มีสอน อย่าหยุดนิ่ง จงลงมือเรียนรู้อย่างเต็มที่ และสนุกที่จะเรียนรู้
วันนี้อาจเป็น 10 กว่าปีของหลายๆ คน เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ร่วมเรียนรู้ เป็นบรรยากาศที่ช่วยเสริมกันและกัน บางครั้งเราทำตัวไม่ดีแต่มีเพื่อนคอยแนะนำ เพื่อนช่วยกันเสริมให้เราไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันเราเองก็ช่วยเพื่อนให้ดีขึ้น คำว่า “เพื่อน”
จึงเป็นคำที่ซาบซึ้งที่อยู่ไปยาวนาน ขอให้ทุกคนซึมซับความประทับใจกับคุณครู กับเพื่อน และโรงเรียน
จดจำและระลึกถึงให้เป็นพลังใจไว้เมื่อเราหมดแรง เพราะชีวิตคนเราไม่ได้สมหวังทุกเรื่องในชีวิต อาจมีบางครั้งที่ไม่สมหวังบ้างขอให้พวกเรามีพลังลุกขึ้นยืนและต่อสู้กับอุปสรรคที่ต้องเผชิญ และขอให้พวกเราทุกคนรู้ว่าเรายังมีเพื่อนที่พร้อมรับฟัง ช่วยเหลือ ปลอบประโลม มีคุณครูที่พร้อมช่วยเหลือในสิ่งที่พอจะช่วยได้ ขอให้ตระหนักเสมอว่าเราไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียว เรามีเพื่อน คุณครู โรงเรียนเดิมของพวกเรา ขออวยพรให้พวกเราจงประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง เป็นกำลังสำคัญของสังคม ของประเทศ ช่วยกันเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น”
คุณทนง โชติสรยุทธ์
ผู้อำนวยการโรงเรียนเพลินพัฒนา
12 มี.ค. 64
“ ผมอยู่เพลินพัฒนามา 16 ปีตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลครับ ต้องขอขอบคุณโรงเรียนที่ช่วยให้ผมเป็นแบบทุกวันนี้ได้ โรงเรียนเปิดโอกาสให้ได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ตั้งแต่อยู่ประถม มีเวลาว่างให้ผมทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การเล่นดนตรี หรือการช่วยงานด้าน Light & Sound ทำให้ผมค้นพบตัวเองได้เร็วขึ้น รวมทั้งมีทักษะในหลาย ๆ ด้านเพื่อเตรียมพร้อมต่อการใช้ชีวิตในอนาคต โรงเรียนยังทำให้ผมได้เจอคนดีๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณครู พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ ที่ผ่านสิ่งต่างๆ มาด้วยกัน เปิดโอกาสให้เด็กได้ทำงานต่างๆ ที่ต้องร่วมมือกับคนที่หลากหลายเช่น งานแดงชาด มหกรรมดนตรี ซึ่งผมว่างานเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจการทำงานในสภาพสังคมจริงมากขึ้นด้วยครับ”
ความรู้สึกดีๆ จากลูกศิษย์
ศักดิพัฒน์ พุทธิมา (เบสท์) ชั้น 12
“ ตั้งเเต่อยู่เพลินพัฒนามาเป็นเวลา 12 ปี เรียกได้ว่ามากกว่าครึ่งชีวิตของอิงค์อีกค่ะ โรงเรียนเเห่งนี้ให้อะไรกับอิงค์มากกว่าที่ตัวอิงค์คิดไว้ โดยเฉพาะสังคมของเพลินฯ ที่เราจะอยู่กันเเบบครอบครัว ที่จะคอยส่งเสริม เกื้อหนุนกันในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะจัดงานกิจกรรมใดๆ ก็ได้รับความช่วยเหลือจากนักเรียน ผู้ปกครอง คุณครู อยู่เสมอ นอกจากนี้ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้องในโรงเรียนก็น่ารักกันมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงทำงานเเดงชาดที่รุ่นพี่ เเละรุ่นน้องจะมีการช่วยเหลือกันเเละสนิทกันมากขึ้น เเละสิ่งที่อิงค์ประทับใจมากที่สุดคือสังคมเพื่อนที่เพลินค่ะ อิงค์เชื่อว่าต่อไปในอนาคตอิงค์อาจจะได้เจอสังคมที่ใหญ่มากขึ้น เจอคนมากขึ้น เเต่อิงค์ก็ยังเชื่อเสมอว่าไม่มีสังคมเพื่อนที่ไหนที่จะดีกว่าที่เพลินเเล้วค่ะ พวกเราผ่านอะไรกันมากมาย เพื่อนที่นี่จริงใจ คอยซัพพอร์ตซึ่งกันเเละกัน ตักเตือนกัน เเละ
น.ส. ธันย์พักตร์ มณฑลกาญจน์(อิงค์) ชั้น 12
โดย ส่วนสื่อสารองค์กร
ข้อมูล ณ วันที่ 15 มีนาคม 2564